-
การฟื้นฟูฟุกุชิมะ
บอกเล่าเสน่ห์และสภาพในปัจจุบันของฟุกุชิมะที่กำลังดำเนินการฟื้นฟู
-
ความปลอดภัยในฟุกุชิมะ
อธิบายเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยของอาหารและผลการตรวจสอบกัมมันตรังสี
-
ความปลอดภัยด้านอาหารและน้ำดื่มในญี่ปุ่นและฟุกุชิมะ
อธิบายเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยของอาหารและผลการตรวจสอบกัมมันตรังสี
-
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะแห่งที่ 1
อธิบายเกี่ยวกับการเปรียบเทียบกับอุบัติเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล รวมทั้งสภาพของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะแห่งที่ 1 ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
-
น้ำที่บำบัดด้วยระบบ ALPS / สารทริเทียม / การเฝ้าระวัง
น้ำที่บำบัดด้วยระบบ ALPS / สารทริเทียม / การเฝ้าระวัง
*คำถามแต่ละข้ออาจมีข้อความบางส่วนที่อาจสร้างความไม่สบายใจให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดฟุกุชิมะเราได้จัดทำให้ชาวต่างชาติสามารถค้นหาได้ง่ายขึ้นโดยจัดโครงสร้างคำถามตามข้อสงสัยอย่างตรงไปตรงมาของชาวต่างชาติจำนวนมากที่มีต่อฟุกุชิมะโดยอาศัยแบบสอบถามเบื้องต้นที่ดำเนินการโดยสำนักงานการบูรณะ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
การฟื้นฟูฟุกุชิมะ
-
Q
การฟื้นฟูมีความคืบหน้าในด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องทั้งความปลอดภัย โครงสร้างพื้นฐาน การท่องเที่ยว การส่งออก และอื่น ๆ
-
Q
นักท่องเที่ยวทั้งจากในประเทศและต่างประเทศเดินทางมาเยือนเป็นจำนวนมากตามการฟื้นฟูที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
-
Q
เสน่ห์ที่น่าสนใจที่สุดของฟุกุชิมะคือธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ตระการตา นอกจากนี้ยังมีสถานที่ที่น่าเที่ยวชมอีกมากมายจนไล่เรียงในที่นี้ได้ไม่หมด อย่างเช่น ประวัติศาสตร์ ออนเซ็น อาหารเลิศรส เป็นต้น
ความปลอดภัยในฟุกุชิมะ
-
Q
ปริมาณรังสีในเมืองใหญ่ ๆ ภายในจังหวัดฟุกุชิมะมีปริมาณไม่ต่างไปจากโตเกียวและเมืองใหญ่ทั่วโลก
-
Q
จะมีการวัดอัตราปริมาณความเข้มรังสีในอากาศโดยใช้เสาเฝ้าระวังแบบเคลื่อนย้ายได้ ระบบวัดปริมาณรังสีแบบเรียลไทม์ ฯลฯ โดยจะเผยแพร่ผลการวัดแบบเรียลไทม์ทุก 10 นาทีบนเว็บไซต์ของหน่วยงานของรัฐ
-
Q
มีการกำจัดสารกัมมันตรังสีเรียบร้อยแล้วในเขตที่กำหนดว่าจะกำจัดการปนเปื้อน ยกเว้นในเขตที่กลับภูมิลำเนาได้ยาก
-
Q
บางเขตมีค่าอยู่ในระดับค่อนข้างสูง แต่จะมีการควบคุมไม่ให้เข้าไปในสถานที่ดังกล่าว
-
Q
พื้นที่ 97.8 เปอร์เซ็นต์ในจังหวัดฟุกุชิมะ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ปัจจุบันมีผู้อยู่อาศัยประมาณ 1.75 ล้านคน
-
Q
มีการจำกัดไม่ให้เข้าไปเฉพาะบางพื้นที่เท่านั้น และพื้นที่เหล่านี้ก็มีจำนวนน้อยลงไปมากเมื่อเทียบกับช่วงแรกหลังเกิดแผ่นดินไหว
-
Q
ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency หรือเรียกย่อว่า IAEA) ได้ประเมินโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะแห่งที่ 1 ว่า “ได้เปลี่ยนผ่านสู่สภาวะที่เสถียรแล้ว” นอกจากนี้แล้ว องค์การอนามัยโลก (World Health Organization หรือเรียกย่อว่า WHO) และคณะกรรมการวิทยาศาสตร์แห่งสหประชาชาติว่าด้วยผลกระทบจากรังสีปรมาณู (UN Scientific Committee on the Effects of Atomic Radiation หรือเรียกย่อว่า UNSCEAR) ยังได้ประเมินผลกระทบด้านสุขภาพในฟุกุชิมะไว้ว่า “มีความเป็นไปได้น้อยที่จะตรวจพบผลกระทบด้านสุขภาพจากกัมมันตรังสีที่เกิดจากอุบัติเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์”
-
Q
ณ ขณะนี้ยังไม่พบปัญหาด้านสุขภาพจากการสัมผัสสารกัมมันตรังสี แม้จะพิจารณาจากปริมาณรังสีที่มีการสัมผัสหลังเกิดอุบัติเหตุ ก็ยังประเมินได้ว่าเป็นไปได้ยากที่จะส่งผลกระทบด้านสุขภาพในอนาคต
-
Q
แม้จะพิจารณาจากปริมาณรังสีที่มีการสัมผัสหลังเกิดอุบัติเหตุ ก็ยังประเมินได้ว่าเป็นไปได้ยากที่จะมีผู้ป่วยโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นในอนาคต
ความปลอดภัยด้านอาหารและน้ำดื่มในญี่ปุ่นและฟุกุชิมะ
-
Q
ไม่ใช่เฉพาะเพียงฟุกุชิมะเท่านั้น แต่ความปลอดภัยของอาหารในญี่ปุ่นมีการกำหนดเกณฑ์ให้อยู่ในระดับที่เข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อาหารที่ผ่านการตรวจสอบว่าปลอดภัยแล้วจึงจะถูกกระจายออกสู่ตลาด
-
Q
มีการดำเนินการอย่างเหมาะสมตามแนวทางที่รัฐบาลญี่ปุ่นกำหนดไว้ อีกทั้งยังมีการประเมินจากหน่วยงานระหว่างประเทศอีกด้วย
-
Q
ปลอดภัย และสามารถดื่มได้ด้วย
-
Q
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ แทบจะไม่มีสารใดที่มีค่าเกินกว่าค่ามาตรฐานที่เข้มงวดที่สุดในโลก
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะแห่งที่ 1
-
Q
แตกต่างกันมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเปรียบเทียบกับอุบัติเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลแล้ว สารกัมมันตรังสีที่ปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศจะมีปริมาณน้อยกว่า และ ณ ขณะนี้ยังไม่พบผลกระทบด้านสุขภาพจากการสัมผัสสารกัมมันตรังสี
-
Q
แม้จะมีเศษเชื้อเพลิงหลงเหลืออยู่ แต่ก็มีการรักษาให้อยู่ในสถานะที่เสถียรด้วยการหล่อน้ำอย่างต่อเนื่อง
-
Q
มีการตรวจสอบ (ตรวจประเมิน) มาแล้ว 5 ครั้งโดยทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA)
-
Q
มีการดำเนินงานเพื่อปลดระวางโรงไฟฟ้านิวเคลียร์โดยจะใช้ระยะเวลา 30-40 ปี
น้ำที่บำบัดด้วยระบบ ALPS / สารทริเทียม / การเฝ้าระวัง
-
Q
“น้ำที่ปนเปื้อน” เป็นน้ำที่สัมผัสกับเศษเชื้อเพลิงในอาคารพลังงานนิวเคลียร์และมีสารกัมมันตรังสีปนอยู่ ส่วน “น้ำที่บำบัดด้วยระบบ ALPS” เป็นน้ำที่มีการกำจัดสารกัมมันตรังสีต่าง ๆ ที่ไม่ใช่สารทริเทียมให้อยู่ต่ำกว่ามาตรฐานการควบคุมโดยใช้ระบบ ALPS (อุปกรณ์กำจัดนิวไคลด์ต่าง ๆ)
-
Q
เนื่องจากจำเป็นต้องใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งรวมถึงพื้นที่ที่มีการสร้างถังเอาไว้ด้วยเพื่อให้การดำเนินงานปลดระวางโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เป็นไปอย่างปลอดภัยและไม่ล่าช้า
-
Q
ในทางเทคนิคแล้ว เราสามารถกำจัดทิ้งได้อย่างปลอดภัย แต่เมื่อพิจารณาถึงผลกระทบจากกระแสข่าวลือ และผลกระทบอื่น ๆ ในทางสังคมแล้ว จึงได้กักเก็บไว้ในพื้นที่จนถึงปัจจุบัน
-
Q
ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ของน้ำที่กักเก็บในถังมีสารกัมมันตรังสีอื่นที่นอกเหนือไปจากสารทริเทียมปนอยู่ในระดับที่สูงเกินมาตรฐานการควบคุม แต่ในกระบวนการบำบัดจริงนั้น จะทำการบำบัดซ้ำจนกว่าสารกัมมันตรังสีเหล่านี้จะมีค่าอยู่ภายใต้มาตรฐานการควบคุม
-
Q
“ทริเทียม (Tritium)” อยู่ในกลุ่มไฮโดรเจนและมีอยู่ทั่วไปรอบตัวเรา
-
Q
พลังงานกัมมันตรังสีที่เกิดจากสารทริเทียมมีระดับอ่อนมากและจะไม่เป็นอันตรายตราบเท่าที่มีการปฏิบัติตามมาตรฐานการควบคุม
-
Q
สารทริเทียมจะไม่สะสมเข้มข้นอยู่ในสิ่งมีชีวิต
-
Q
ในการปล่อยน้ำที่บำบัดด้วยระบบ ALPS ลงสู่มหาสมุทรนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการเฝ้าระวังน้ำทะเลและผลิตภัณฑ์ประมงโดยรอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะแห่งที่ 1 ตรวจสอบระดับความเข้มข้นของสารทริเทียมและสารกัมมันตรังสีอื่น ๆ แล้วเผยแพร่ผลการตรวจสอบทางอินเทอร์เน็ต
-
Q
หากเฝ้าระวังพื้นที่ทางทะเลโดยรอบแล้วตรวจสอบพบว่าน้ำที่ปล่อยไปไม่ได้กระจายตัวออกไปมากเท่าที่ควร ฯลฯ เราจะหยุดการปล่อยน้ำในทันที